กระท้อนดอง
ส่วนผสม
กระท้อน 10 ลูก
เกลือป่น 1 ถ้วย
น้ำ 2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกกระท้อนให้หมด ล้างให้สะอาด
2. สับกระท้อนถี่ๆ ให้รอบลูกกระท้อน แล้วบีบให้แบนเล็กน้อย
3. ผสมน้ำกับเกลือ ตั้งไฟให้เดือด ยกลง พักไว้ให้เย็น เทใส่ โหลกระท้อน ปิดฝาให้สนิท ตั้งทิ้งไว้ในร่ม 1 วัน
4. รับประทานกับน้ำปลาหวาน โดยใช้จิ้มหรือราดบนกระท้อนก็ได้
น้ำปลาหวาน เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำปลาให้เป็นยางมะตูม ใส่กุ้งแห้งป่นชิมรสตามใจชอบ
เพิ่มโอกาส
2561-09-12
วิธีทำพุทธาดอง
พุทราดอง
ส่วนผสม
พุทราดิบ 1 กิโลกรัม
เกลือป่น 1 ถ้วย
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมน้ำ เกลือป่น และน้ำตาล ตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เป็นน้ำดอง
2. ล้างพุทราให้สะอาด ใส่กระชอนไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. เรียงพุทราลงในโหล เทน้ำดองลงให้ท่วมพุทรา ปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดด 3 วัน
4. รับประทานกับพริกกับเกลือ
ส่วนผสม
พุทราดิบ 1 กิโลกรัม
เกลือป่น 1 ถ้วย
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมน้ำ เกลือป่น และน้ำตาล ตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เป็นน้ำดอง
2. ล้างพุทราให้สะอาด ใส่กระชอนไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. เรียงพุทราลงในโหล เทน้ำดองลงให้ท่วมพุทรา ปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดด 3 วัน
4. รับประทานกับพริกกับเกลือ
2561-09-10
น้ำสลัดลดความอ้วน อย่างง่าย
น้ำสลัดลดความอ้วน
วิีธีทำน้ำสลัดพลังงานต่ำ
พลังงาน 40-44 แคลอรี่ / 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม
น้ำส้มไซเดอร์ 1/2 ถ้วย
ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสเปรี้ยว 3 ช้อนชา
ซอสถั่ว 2 ช้อนชา
กระเทียมโขลกละเอียด 1 ช้อนชา
มัสตาร์ดผง 1/4 ช้อนชา
พริกป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใส่ลงในขวดเขย่าให้เข้ากัน นำไปราดกับสลัดได้เลย
5 เทคนิค คิดอย่างไร ให้ปัญหาเล็กลง
คนเราแต่ละคนให้คำนิยามหรือคำจำกัดความของ "ปัญหา" ไว้แตกต่างกันไป สำหรับหลายๆคนแล้ว ดูเหมือนปัญหาจะเป็นสิ่งที่พร้อมบั่นทอนกำลังใจ ฉุดรั้งให้ละสายตาออกจากเป้าหมายได้อย่างง่ายดายเป็นประจำ
แต่สำหรับผู้ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น "ปัญหา" ต้องเป็นเหมือนยาวิเศษ เป็นแค่ยาชูกำลัง เป็นสถานการณ์หนึ่งที่เราต้องก้าวผ่าน มันก็เท่านั้นเอง
เมื่อเราปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสิ่งที่เคยคิดว่าเป็น "ปัญหา"ได้แล้ว นั่นหมายถึงว่าเราไม่ได้มีปัญหาวางอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป เพียงแต่เรามี "สถานการณ์" ให้แก้ไข หากเราปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองให้ได้เช่นนี้
เชื่อเถอะค่ะว่าปัญหา มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรอีกต่อไป หรือจะเป็นได้ก็แค่เรื่องเล็กๆ ในชีวิตเราเท่านั้น หากเพียงแต่เรา "เข้าใจ" และมีทักษะในการมองปัญหา รับรู้และแก้ไขมันอย่างที่พึงจะกระทำได้
มาเปลี่ยนมุมมองให้ปัญหาเป็นแค่เศษผงกันเลยจ๊ะ
สำนักพิมพ์ โนวเลดจ์ เมคเกอร์
เทคนิคการคิดอย่างไร ให้ปัญหาเล็กลง
→ รู้จักวางปัญหา การพยายามเร่งรีบที่จะแก้ปัญหาให้ได้ ในขณะที่ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะแก้ได้ ทำให้เราต้องวิ่งวนอยู่ในตัวปัญหาและสับสนอยู่กับความคิดของตัวเองเป็นเวลาเนิ่นนาน การได้พบความจริงว่า
ตัวเองกำลังอยู่ใกล้กับปัญหามากเกินไปและจริงจังกับมันมากเกินไป จนทำให้ไม่มีเวลาที่จะคิดหรือมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจนเพียงพอ "การวางปัญหาลงชั่วขณะ แล้วถอยออกมาคิดจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด"เพราะเมื่อเรารู้สึกว่าปัญหากำลังจะดึงเราเข้าไปให้จมอยู่กับความมืดและสับสน เราต้องรู้จักที่จะผลักมันออกไป เพื่อที่จะ "ตั้งสติ" และมองหา "จุดยืน" ที่สงบกว่าในการใช้ความคิดและเริ่มทบทวนปัญหาอย่างมีความเข้าใจมากขึ้น
→ทำไมต้องทำแบบเดิม ในโลกเรานี้...มีคนอยู่ประเภทหนึ่ง คือคนที่ชอบอะไรแบบ "เดิมๆ" ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะใช้แนวคิดแบบเดิมๆ วิธีแบบเดิมๆ หรือแม้กระทั่งในเวลาที่ต้องแก้ปัญหา ก็ยังแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ อยู่ตลอด สาเหตุอาจเป็นเพราะความกลัว...กลัวว่าถ้าไม่ทำแบบเดิมแล้วอาจจะผิดพลาดได้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะความขี้เกียจที่จะคิด หรือเพราะความไม่คุ้นเคยที่จะทำอะไรใหม่ๆ
ก็เลยต้อง "ยึดติด"อยู่กับวิธีทำแบบเดิมๆ โดยไม่เคยคำนึงว่า...บางทีนั่นอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตเราไม่เคยพบความก้าวหน้าก็เป็นได้ การเลิกยึกติดกับสิ่งเดิมๆ และเริ่มต้น "คิดค้น" อะไรใหม่ๆดูบ้าง อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต และเราต้องรู้จักที่จะ "คิดใหม่" ทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
เพื่อจะได้ค้นพบคำตอบที่ดีที่สุดจริงๆว่า สำหรับเรื่องนี้ เราควรจะทำอย่างไร หรือสำหรับปัญหานี้ เราควรจะแก้ด้วยวิธีใดจึงจะถูกต้องและเหมาะสม
→ไม่ใช่เวลาของเรา ในทุกๆครั้งที่ความล้มเหลวเกิดขึ้น คนเรามักจะเกิดความคิดในแง่ลบกับตัวเอง และมองชีวิตในแง่ร้ายไปต่างๆนานา บ้างว่าตัวเองเป็นคนโง่เง่าไม่เอาไหน บ้างก็ว่าชีวิตมันช่างโหดร้ายและน้ำเน่ายิ่งกว่าในละคร แน่นอน ถ้าคุณเคยล้มเหลวมาก่อน คุณอาจเคยถามตัวเองว่า ทำไม? คิดไปคิดมาก็วนอยู่ตรงนี้ เหตุผลเหล่านั้น นอกจากจะไม่ทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น ยังจะทำให้คุณยิ่งสูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองมากขึ้น
ถ้าเราจะลองบอกตัวเองว่า มันคงยังไม่ใช่เวลาของเรา อาจยังไม่ถูกจังหวะ หรือเราอาจไม่ได้ ลงมือทำสิ่งนั้นในเวลาที่ถูกต้องหรือในเวลาที่ดีที่สุด เราจะรู้สึกอย่างไรกับเหตุผลเหล่านั้นดูเหมือนเป็นการ "เข้าข้างตัวเอง" แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือการ "เข้าใจชีวิต" ฉันเชื่อว่าชีวิตของคนเราทุกคนนั้น มีปฏิทิน เป็นปฏิทินแห่งจังหวะเวลา ที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น เราทุกคนต่างต้องเลือกและตัดสินใจที่จะลงมือทำอะไร ครั้งนี้อาจเป็นเวลาของเราก็ได้ ใครจะรู้
→ความยืดหยุ่นเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ สำหรับบางคนแล้ว ความเชื่อนั้นเปรียบเสมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงความเป็น "ตัวตน" ของเขา การจะบอกให้ใครคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงความเชื่อ มันก็เป็นเรื่องยากพอๆ กับที่จะบอกให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวตนของเขานั้นเอง
แต่อยากให้คุณรู้ไว้ว่า "การไม่มีความยืดหยุ่นในเรื่องความเชื่อ" นี่แหละคือ"ปัญหา" ของคนเรา เพราะการเชื่อมั่นในความเชื่อของเรามากเกินไป อาจทำให้เรามีวิสัยทัศน์ที่แคบ และไม่สามารถจะเปิดรับหรือเล็งเห็นแนวการคิดที่ดีๆหรือที่น่าสนใจอื่นๆได้เลย ความเชื่อเหล่านั้นได้เข้ามาเป็น "กรอบ" ที่ทำให้เราต้องคิดอย่างนั้น มองอย่างนั้น หรือปฏิบัติอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณสร้างความยืดหยุ่นให้กับความเชื่อของตัวเองบ้าง โดยการหนักแน่นในสิ่งที่ "ใช่" และเปิดใจรับในสิ่งที่ "อาจจะใช่" เพียงแค่นั้นคุณก็จะได้รับประโยชน์จากทุกๆความเชื่อที่มีอยู่ในโลกนี้แน่นอน
→ชีวิตย่ำแย่ มีเรื่องน่าแปลกใจอยู่เรื่องหนึ่ง ทำไมเวลาที่ชีวิตของคนเราตกในสภาวะที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง เราจึงต้องพูดว่า "ชีวิตของเรามันย่ำแย่" มันเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอยู่ว่า ทำไมคนที่กำลังพบเจอกับช่วงชีวิตที่ย่ำแย่ ถึงไม่เคยพูดว่าฉันดี ฉันเก่ง ฉันมีความสามารถ หรือ ฉันภูมิใจในตัวเอง
อยากให้คุณลองทำใจเย็นๆ แล้วคิดช้าๆอีกที อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปว่า ชีวิตนี้เป็นชีวิตที่ "ล้มเหลว" และ "ไร้ค่า" การที่คุณจะไปตัดสินชีวิตด้วยมุมมองที่คุณมีในวันนี้อาจไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ เพราะในแต่ละช่วงของชีวิต มุมมองของคนเราที่มีต่อชีวิตนั้นมักจะไม่เหมือนกัน เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น มุมมองของคุณก็อาจจะเปลี่ยนไป สภาวะชีวิตที่คุณมองว่าเลวร้ายและย่ำแย่ในวันนี้
เมื่อคุณมองกลับไปคุณอาจจะรู้สึกภูมิใจและคิดว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม ในมุมมองส่วนตัวของฉัน "ชีวิตที่ย่ำแย่" ไม่ได้เป็นตัวบอกอะไรนอกไปจาก "เราควรจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น" และถ้าในวันนี้เราได้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ชีวิตที่ย่ำแย่ก็อาจกลายเป็นความทรงจำที่ดีได้
ขอบพระคุณ
หนังสือคิดอย่างไร ให้ปัญหาเล็กลง
เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล
วันนี้ เพิ่มโอกาส ได้นำเทคนิคบางส่วน มุมมองต่างๆมาให้กำลังใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ชีวิตของคนเรามีทั้งขึ้นและลง จงมองปัญหาให้เล็กเท่ามด มองโอกาสเท่าท้องฟ้า แล้วทุกอย่างจะดึขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)